Audience หรือ “กลุ่มเป้าหมาย” ปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับการลงโฆษณา Facebook กล่าวคือ เมื่อคุณจะลงโฆษณาใดๆ ก็ตาม คุณจำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายว่าคุณต้องการให้ใครรับโฆษณาของคุณ ถ้าคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายผิด โฆษณาของคุณก็แสดงบนฟีดที่ผิดๆ สุดท้ายคุณก็จะเสียเงินฟรีๆ โดยใช่เหตุ
ดังนั้น การที่คุณจะลงโฆษณาให้ดีได้ คุณจำเป็นต้องศึกษาประเภทของกลุ่มเป้าหมายให้เข้าใจก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็น Key Concept ของ Facebook หลายคนที่เริ่มต้นลงโฆษณามักละเลยตรงจุดนี้ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การลงโฆษณาไม่มีประสิทธิภาพ นี่จึงเป็นที่มาของบทความนี้ที่จะมาอธิบายแบบง่ายสุดๆ ให้คุณได้เข้าใจ
กลุ่มเป้าหมายของ Facebook มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
กลุ่มเป้าหมายของ Facebook แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- Core Audience หรือ “กลุ่มเป้าหมายหลัก”เป็นประเภทของกลุ่มเป้าหมายที่ทุกคนที่เคยลงโฆษณาไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่ล้วนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายขั้นพื้นฐาน โดยข้อมูลจะมาจาก User Data ของ Facebook เช่น
- Location เป็นสถานที่ที่คุณต้องการยิงโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมาย
- Demographic เป็นข้อมูลทางประชากรศาสตร์ของกลุ่มเป้าหมายคุณ เช่น อายุ เพศ อาชีพ ภาษา ระดับการศึกษา เป็นต้น
- Interest เป็นการกำหนดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายของผู้ที่คุณต้องยิงโฆษณาไปหา
- Behavior หรือพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การเดินทาง อุปกรณ์ที่ใช้ พฤติกรรมการจับจ่าย เป็นต้น
- Connection หรือการเชื่อมต่อ เป็นการยิงโฆษณาไปหาผู้ที่มีการเชื่อมต่อกับเพจ แอพ หรือ Event ที่สร้างขึ้น
- Custom Audience หรือ “กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง” เป็นกลุ่มเป้าหมายที่คุณกำหนดขึ้นมาเอง โดยเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เคยรู้จักหรือเคยปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจคุณมาก่อน เช่น ไฟล์ Database ลูกค้าของบริษัท, ผู้ที่เคยซื้อสินค้าคุณบนเว็บไซต์, ผู้ทีเคยเยี่ยมชมเพจคุณ เป็นต้น ถ้าคุณต้องการทำ Remarketing เพื่อเข้าถึงลูกค้าเก่าๆ ของคุณ คุณจะใช้กลุ่มเป้าหมายประเภทนี้
- Lookalike Audience หรือ “กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน” เป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าของคุณเอง เช่น การยิงโฆษณาไปหากลุ่มคนใหม่ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับลูกเพจคุณหรือผู้ที่เคยซื้อสินค้าบนเว็บไซต์คุณ เป็นต้น มีประโยชน์ในการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ
การนำไปใช้
ถ้าคุณลองทำความเข้าใจกับลักษณะของประเภทกลุ่มเป้าหมายดีๆ คุณจะรู้ว่าแต่ละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะของมัน เช่น
- กรณีที่คุณต้องการยิงโฆษณาเพื่อหาลูกค้าใหม่ คุณก็อาจใช้ Core Audience
- กรณีที่คุณต้องการหาลูกค้าใหม่ และต้องการกลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับผู้ที่เคยปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจคุณ คุณก็ใช้ Lookalike Audience
- กรณีที่คุณต้องการยิงโฆษณาโดยตรงเข้าหาลูกค้าเก่าๆ หรือผู้ที่เคยปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจคุณมาก่อน อาจเพื่อยํ้าเตือนหรือส่งโปรโมชั่น คุณก็ใช้ Custom Audience
แรกๆ คุณอาจจะงง แต่ถ้าคุณลองอ่านและทำความเข้าใจดูคุณจะเห็นว่าไม่ยากเลย มันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไรจากโฆษณาที่คุณกำลังจะลง จากนั้นแค่เลือกประเภทกลุ่มเป้าหมายให้ตรงตามจุดประสงค์ แค่นี้เอง!