ทุกคนล้วนมีความรู้สึก คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าในแต่ละวันลูกน้องของคุณจะต้องเผชิญกับความยากลำบากอะไรมาบ้าง ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องลูกค้า หรือบางคนมีปัญหากับครอบครัวแต่พอมาที่ทำงานกลับทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางคนทำงานเก่งมาก แต่พอต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ บางอย่างถาโถมเข้ามาก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน มากๆ เข้าอาจทำให้คิดถึงขั้นลาออก เพราะกดดันและไม่มีใครเข้าใจ
ดังนั้นในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้า มันคงจะดีถ้าคุณสามารถสร้างสภาวะแวะล้อมในการทำงานที่ดีกว่าขึ้นมาได้ ซึ่งการปฎิบัติจากคนที่เป็นหัวหน้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นมาดูกันว่าคุณจะมีวิธีซัพพอร์ต มีวิธีให้กำลังใจลูกน้องอย่างไร เพื่อให้เขาก้าวผ่านช่วงเวลาและความรู้สึกที่ยากลำบากไปได้อย่างดีที่สุด
คอยอยู่เคียงข้างพวกเขา
คุณเป็นหัวหน้า คุณมีนัดที่ต้องพบปะกับแขกคนสำคัญ คุณมีห้องส่วนตัว แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะต้องทำตัวห่างเหิน บางครั้งคุณอาจต้องหาเวลาคุยกับลูกน้องของคุณแบบสบายๆ บ้าง เพื่อทำให้เขารู้สึกว่าคุณสามารถเข้าถึงได้ คุณคอยอยู่เคียงเขา ระหว่างวันคำพูดง่ายๆ อย่างเช่น “เป็นยังไงบ้างวันนี้ สบายดีนะ” ก็อาจทำให้ลูกน้องของคุณรู้สึกดี มีกำลังใจขึ้นมาได้
ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ
คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับลูกน้องของคุณ แต่คุณจำเป็นต้องรู้บ้าง การถามไถ่สารทุกข์สุขดิบจะช่วยให้ลูกน้องเปิดใจกับคุณได้ง่ายขึ้น รู้สึกว่าคุณเป็นพวกเขา และบางครั้งคุณอาจสังเกตเห็นความผิดปกติอะไรบางอย่าง เช่น จากที่ลูกน้องคุณชอบพูดชอบจา อยู่ๆ กลับเงียบขรึม คุณก็จะรู้ได้ทันทีว่ามีปัญหาเกิดขึ้น
เหนื่อยนักก็พักบ้าง
บางครั้งการทำงานติดต่อกันไปนานๆ ก็ไม่ส่งผลดี คุณควรจัดให้มีช่วงเวลาพักพิเศษสั้นๆ ระหว่างวันขึ้นมา หรือจัดให้มีกิจกรรมร่วมกันอะไรบางอย่างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งที่จะช่วยผ่อนคลายความเครียด แถมยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วยกันเองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย
จ้างที่ปรึกษาด้านจิตเวช
แม้คุณจะทำตัวเปิดเผย สามารถเข้าถึงได้ แต่เพราะการที่คุณมีตำแหน่งเป็น “หัวหน้า” บางครั้งก็อาจทำให้ลูกน้องของคุณรู้สึกประหม่าอยู่ดี แล้วอีกเรื่องคือคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ปัญหาบางอย่างคุณก็ไม่อาจแก้ไขได้ ดังนั้นจึงเป็นการดีถ้าคุณจะสามารถจ้างที่ปรึกษาด้านจิตเวชมาคอยให้คำแนะนำลูกน้องของคุณ
ปัญหาการเมืองในองค์กรต้องรีบแก้ไข
ปัญหาการเมืองภายในองค์กรมีอยู่ทุกที่ มีตั้งแต่ระดับเล็กๆ ไปจนถึงระดับใหญ่ แต่มันคงไม่ดีแน่ถ้าเกิดกับลูกน้องในทีมคุณเองจนถึงขั้นแบนหรือ bully กัน ซึ่งจะทำให้คนที่โดนรู้สึกไม่ดี รู้สึกเครียดกับการทำงาน ดังนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้าคุณต้องรีบแก้ไข คุณต้องใช้เวลาพูดคุยกับทุกคนในทีมแบบตัวต่อตัวเพื่อรับทราบว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายคุณต้องเผชิญหน้าและทำให้พวกเขารู้ว่ามีปัญหาและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปมากกว่านี้
สุดท้ายจงจำไว้เสมอว่าการที่เป็นหัวหน้าคนไม่จำเป็นต้องเก่งกว่าคนอื่น แต่คุณต้องเก่งพอที่จะทำให้ลูกน้องยอมรับและศรัทธา หรือเรียกอีกอย่างว่า “อำนาจบารมี”